มติคณะรัฐมนตรีต่างด้าว สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 26 มกราคม 2564 ต่างด้าว

สรุปข่าว มติคณะรัฐมนตรีต่างด้าว วันที่ 26 มกราคม 2564

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

สรุปข่าว มติคณะรัฐมนตรีต่างด้าว วันที่ 26 มกราคม 2564 ตรวจคนเข้าเมือง
สรุปข่าว มติคณะรัฐมนตรีต่างด้าว วันที่ 26 มกราคม 2564 ตรวจคนเข้าเมือง

ย่อข่าว มติคณะรัฐมนตรีต่างด้าว วันที่ 26 มกราคม 2564

ประกาศมหาดไทย1

ประกาศมหาดไทย2

ประกาศมหาดไทย3

ประกาศมหาดไทย4

 

กลุ่มบัตรชมพูเก่า

   1.1 มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 20 สิงหาคม 2562 บัตรชมพูที่หมดอายุ 31 มีนาคม 2565 โดย วีซ่า จะหมดอายุ 31 มีนาคม 2564 ให้สามารถต่อวีซ่าได้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2564 (ได้วีซ่าถึง 31 มีนาคม 2565 เท่าเดิม)

   1.2 มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 4 สิงหาคม 2563 บต.23 ที่ยังลงตราวีซ่าไม่เสร็จ ให้สามารถต่อวีซ่าได้ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 (ได้วีซ่าถึง 31 มีนาคม 2565 เท่าเดิม)


กลุ่มMOUหมดอายุ

   1.มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 กลุ่ม MOUที่ครบ4ปี และ MOUที่ครบ2ปี สามารถต่อวีซ่าได้หลังจากวีซ่าหมดอายุ6เดือน โดยกลุ่มที่ช้าสุด ไม่เกิน 30 มิถุนายน 2565

*** ใบอนุญาตทำงานต้องยื่นคำขอ 100 บาท ที่จัดหางานตามปกติ ไม่มีประกาศผ่อนผันจากกระทรวงแรงงานนะครับ

มติคณะรัฐมนตรีต่างด้าว วันที่ 26 มกราคม 2564มติคณะรัฐมนตรีต่างด้าว วันที่ 26 มกราคม 2564 บต.23


กลุ่มบัตรชมพู 2564 รอบใหม่

  1. เพิ่มให้จัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics)
  2. อัตราค่าตรวจโควิด-19 จาก3,000 เป็น ไม่เกิน 2,300 บาท
  3. รายงานตัว90วัน เริ่มรายงานตั้งแต่วันที่ได้บัตรชมพู
การขยายเวลาต่างๆ  บุคคล ที่ได้ประโยนช์คือคนต่างด้าวที่หนังสือเดินทางอายุไม่พอจะต่อวีซ่า และ ไม่อยากทำบัตรชมพูใหม่
โดย มีโอกาสรอทำหนังสือเดินทางใหม่หรือขยายอายุหนังสือเดินทาง ไปได้อีกถึง 30 กันยายน 2564
ส่วนคนต่างด้าวที่อายุหนังสือเดินทางพออยู่แล้วสามารถต่อวีซ่าได้ตามปกติอย่ารอให้ใกล้หมดแล้วค่อยทำนะครับ

เรื่อง ทบทวนแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโรโรนา 2019 ระลอกใหม่ และการบริหารจัดการผู้ต้องกัก

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบทบทวนแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ และการบริหารจัดการผู้ต้องกัก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 2019 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว คาดว่าจะตรวจสุขภาพและต่อวีซ่าไม่ทันภายในกำหนด รวมถึงการชะลอการส่งกลับผู้ต้องกักที่ได้รับโทษหรือดำเนินคดีเสร็จสิ้น จากมาตรการงดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ทำให้การส่งกลับทำได้ล่าช้ากว่าปกติ  ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว 2,335,671 คน ใน 3 กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้

  1. กลุ่มที่ถือบัตรสีชมพู จำนวน 1,400,387 คน ประกอบด้วย
    1. กลุ่มแรงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 20 สิงหาคม 2562 จำนวน 1,162,443 คน ให้ขยายระยะเวลาการตรวจสุขภาพและขอต่อ Visa ออกไปอีก 6 เดือนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564
    2. กลุ่มแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 4 สิงหาคม 2563 จำนวน 237,944 คน ให้ขยายระยะเวลาการตรวจสุขภาพและขอต่อ Visa ออกไปอีก 6 เดือน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564
  2. กลุ่มแรงงานต่างด้าวตาม MoU จำนวน 434,784 คน ได้แก่
    1. กลุ่มแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 10 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 119,094 คน และ
    2. กลุ่มแรงงานต่างด้าวตาม MoU วาระการจ้างงานครบ 2 ปี จำนวน 315,690 คน ให้ขยายระยะเวลาการตรวจสุขภาพและขอต่อ Visa ออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งจะทยอยครบกำหนด โดยสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565
  3.   กลุ่มแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 29 ธันวาคม 2563 ซึ่งอยู่ระหว่างยื่นลงทะเบียนคาดว่ามีจำนวนประมาณ  500,000  คน ให้จัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล (Biometics) เพื่อการพิสูจน์ ตัวตนของคนต่างด้าวและความมั่นคงของประเทศ ในช่วงเวลาเดียวกับที่ตรวจโควิด- 19 ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564  ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะส่งข้อมูลคนต่างด้าวที่ได้จัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลแล้วให้กรมการจัดหางานออกใบอนุญาตทำงาน

ทั้งนี้ ยังให้สถานพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถร่วมตรวจโควิด-19 ได้ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เร่งด่วน และสถานพยาบาลของรัฐอาจมีจำนวนไม่เพียงพอสำหรับการตรวจตามกำหนดภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 โดยอัตราค่าตรวจโควิด-19 ต้องไม่เกิน 2,300 บาท ตามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนด

สำหรับกลุ่มผู้ต้องกักที่เป็นคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่มีประมาณ 500 คน อยู่ระหว่างรอการส่งกลับ ให้สามารถทำงานกรรมกรและงานบ้านได้ จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแล เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ต้องส่งกลับประเทศต่อไป

https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/38617

SHARE: